เครื่องวัดความแข็งของเว็บสเตอร์ MSW-20

MS W -20 series อะลูมิเนียม Webster tester เรียกอีกอย่างว่าเครื่องทดสอบความแข็งแบบแคลมป์ซึ่งแบ่งออกเป็น MS W -20, MS W -20a, MS W -20b สามประเภทมีน้ำหนักเบาและพกพาได้ มือข้างหนึ่งไม่ต้องการตัวอย่างเมื่อทำการทดสอบโดยไม่ต้องมีทักษะสูง สามารถทำการทดสอบ NDT ของชิ้นงานได้อย่างรวดเร็วและตรงตามความต้องการในการควบคุมคุณภาพและอัตราที่ผ่านการรับรอง มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการทดสอบการผลิต การตรวจสอบการยอมรับ และการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรมอลูมิเนียม และบริษัทต่างๆ ของหน้าต่าง ประตู และผนังม่านตลอดจนในการตรวจสอบคุณภาพทางวิศวกรรมและแผนกควบคุมทางเทคนิค เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเพิ่มอัตราคุณสมบัติและประหยัดค่าใช้จ่าย

ยืนยันว่าชิ้นงานผ่านการอบชุบด้วยความร้อนหรือไม่

ชิ้นงานทำด้วยโลหะผสมที่ไม่เหมาะสม

Testing ชิ้นงานที่ยาวเกินไปหรือมีน้ำหนักเกิน

โครงการยอมรับโรงงานอลูมิเนียม

ทำโครงการยอมรับในบริษัทหน้าต่าง ประตู และผนังม่าน

MW-20 series Webster hardness tester ใช้หลักการเยื้อง ภายใต้แรงกด การเยื้องจะแปรผกผันกับความแข็งของวัสดุ HW ย่อมาจากความแข็งของ Webster เมื่อค่าเป็น 16 หมายความว่าความแข็งคือ 16HW สามารถอ่านค่าบนหน้าปัดและเปลี่ยนเป็น HV, HR ได้ หาก ความแข็ง ของตัวอย่าง  อยู่นอกช่วง เข็มจะชี้ที่ 20 หากช่วงไม่ต่ำกว่า เข็มจะไม่เคลื่อนที่และจะอยู่ที่ 0  

เครื่องทดสอบควรใช้ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด ไม่มีการสั่นสะเทือน และไม่มีสารกัดกร่อน

เครื่องมือพกพาขนาดเล็ก ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา การทำงานด้วยมือเดียว สามารถวัดความแข็งของโลหะผสมอลูมิเนียมได้อย่างรวดเร็ว

ขั้นตอนการทดสอบโดยไม่ต้องสุ่มตัวอย่างสามารถทดสอบความแข็งของวัสดุได้โดยไม่ทำลาย

ง่ายต่อการเรียนรู้ ไม่มีทักษะสูงของความต้องการการดำเนินงาน การดำเนินงานของมนุษย์ในผลการวัดผลกระทบน้อย เหมาะมากสำหรับไซต์การผลิตสำหรับการทดสอบความแข็งอย่างรวดเร็วของวัสดุ

ไม่มีข้อจำกัดที่เข้มงวดในการวัดรูปร่างของชิ้นงาน เหมาะสำหรับการตรวจจับรูปร่างต่าง ๆ ของอลูมิเนียม

เมื่อเทียบกับเครื่องทดสอบความแข็งแบบแคลมป์ จอแสดงผลดิจิตอลสะดวกกว่าในการอ่านค่า การตรวจจับ และฟังก์ชั่นการแสดงผลแยกกัน เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคในฟิลด์เมื่ออุปกรณ์แสดงผลถูกบล็อกและไม่สามารถอ่านค่าได้

เครื่องมือสามารถกำหนดช่วงความแข็ง คุณภาพของชิ้นงานที่จะทดสอบ ความแข็งของการควบคุมช่วงของชิ้นงาน ปรับปรุงประสิทธิภาพการวัด